เวลาทำการ
จันทร์ - ศุกร์ 09:00 - 18:00 น.
Call Center
08-1655-9898

5 วิธี คุยกับคนท้องถิ่นยังไงให้เข้าใจ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ

22/05/2019 | by WeTrips Travel

หากเพื่อนๆ ต้องไปเที่ยวต่างประเทศในที่ที่ผู้คนไม่ได้พูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ หลายๆ คนก็คงจะประมาทแน่เลยใช่ไหม เพราะว่าเราไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ จะสื่อสารกับใครรู้เรื่องหรือเปล่า แค่เดินออกไปซื้อของแถวที่พักก็ยังกล้าๆ กลัวๆ กังวลแบบนี้จะเที่ยวสนุกได้ยังไง

เพราะโลกของเรามีภาษาต่างๆ เป็นร้อยๆ ภาษา จึงไม่แปลกถ้าหากเพื่อนๆ ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วต้องพบเจอกับคนท้องถิ่นที่ไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน แต่ถ้าหากเพื่อนๆ อดทนและใส่ความคิดสร้างสรรค์ในการสื่อสาร รวมถึงพยายามเข้าใจพวกเขาสักหน่อย เพื่อนๆ ก็จะสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้ แม้ว่าจะไม่ได้พูดภาษาเดียวกันก็ตาม govivigo มีบทความจากเว็บไซต์ gobear มาแนะนำ 5 วิธี ที่จะทำให้เพื่อนๆ สามารถพูดคุยกับคนท้องถิ่นได้ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ไปดูกันเลย

1.ลองพูดคำที่คิดว่าเขาจะเข้าใจ

ขั้นตอนแรกที่จะทำให้เพื่อนๆ สื่อสารกับคนท้องถิ่นเวลาไปเที่ยวต่างประเทศรู้เรื่องก็คือ ให้ลองนึกถึงคำใดก็ได้ที่เพื่อนๆ คิดว่าทั้งเราและเขาจะเข้าใจ อาจจะเป็นคำภาษาอังกฤษหรือคำทับศัพท์ที่ใช้กันทั่วไป เช่น แฮมเบอร์เกอร์ พลาสเตอร์ hospital เป็นต้น ตามแต่บริบทที่ต้องการจะสื่อสารครับ

หรือถ้าเพื่อนๆ รู้จักคำบางคำที่เป็นคำท้องถิ่น ก็ให้เริ่มจากตรงนั้นก็ได้ แต่ถ้าหากไม่รู้ ก็ให้ลองใช้ภาษาอังกฤษคำง่ายๆ สื่อสารไปก่อนก็ได้ครับ


 

2.พูดช้าๆ ชัดๆ และไม่ตะโกน

สิ่งที่จะทำให้คนท้องถิ่นเข้าใจเพื่อนๆ ได้มากขึ้น เวลาพูดอะไรออกไป ก็คือการสื่อสารไปอย่างช้าๆ ให้เขาสามารถฟังออกได้ จะทำให้ชีวิตการเที่ยวต่างประเทศของเพื่อนๆสบายขึ้นโข โดยพยายามอย่าพูดช้าเกินไปหรือเร็วเกินไป ให้มีความเร็วคงที่พอที่จะให้คนท้องถิ่นสามารถจับคำได้ ส่วนใครที่ยังติดสำเนียงไทย อันขึ้นชื่อว่าเป็นสำเนียงที่ฟังยาก ก็อาจจะต้องลองปรับสำเนียงของเพื่อนๆดูอีกนิดนึง หรือพูดให้ชัดยิ่งขึ้นก็ได้ครับ

นอกจากนี้ ก็ไม่ควรจะตะโกนเวลาพูดนะครับ หลายๆ คนมักลืมตัวเวลาไปเที่ยวต่างประเทศแล้วพูดกับคนท้องถิ่น เวลาอยากสื่อสารอะไรก็ตะโกนออกไปแบบช้าๆ เป็นคำๆ นั่นจะยิ่งทำให้คนท้องถิ่นตกใจหรือรู้สึกไม่ดีกับเราทั้งๆ ที่เราไม่ตั้งใจได้ครับ



 

3.ใช้คำง่ายๆ

ถ้าหากเพื่อนๆ ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วต้องพูดกับคนท้องถิ่นเป็นภาษาอังกฤษ พยายามอย่าใส่สำบัดสำนวนให้มาก ซึ่งข้อนี้ไม่น่าเป็นปัญหากับคนไทยมากนัก เพราะเราไม่ใช่เจ้าของภาษาอยู่แล้ว แต่ให้พยายามพูดให้สื่อสารให้ชัดเจน เข้าใจ และใช้คำง่ายๆ หรือใช้ประโยคง่ายๆ ที่ใครๆ ก็เข้าใจ รวมไปถึงถ้าหากเพื่อนๆ ต้องการสื่อสารคำใดคำหนึ่ง ก็พยายามอย่าเปลี่ยนคำนั้นๆ ไปเป็นคำที่คล้ายคลึงกันหรือคำอื่นที่อาจทำให้เกิดสับสน เพราะการพูดคำหลายๆ คำอาจจะทำให้คนท้องถิ่นสับสนได้ว่าจริงๆ แล้วเพื่อนๆ ต้องการอะไรกันแน่


 

4.ฟังอย่างตั้งใจ

เพราะเวลาสื่อสารกับคนท้องถิ่นตอนไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้มีแค่เพื่อนๆ ที่เป็นฝ่ายพูดเท่านั้น เพื่อนๆ ยังต้องคอยฟังและรับสารจากคนท้องถิ่นอย่างตั้งใจมากที่สุด รวมถึงต้องคอยถามย้ำให้แน่ใจว่าเขาเข้าใจที่เราพูดถูกหรือไม่ และถ้าหากคุยกันรู้เรื่องจริงๆ ก็ต้องส่งสัญญาณบอกให้เขารู้ว่าเรื่องนี้เข้าใจกันนะ เพื่อนๆ สามารถมองหาสัญญาณที่จะบอกว่าเขาไม่เข้าใจได้ เช่น การทำเสียง “ฮะ?” หรือ “Huh?“ การทำสีหน้าที่บ่งบอกว่ายังไม่เข้าใจเช่นกันคิ้วขมวด หรือพยายามเงี่ยหูฟังเป็นต้น



 

5.ใช้ท่าทางประกอบ

ถ้าการพูดคุยอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ผล ถ้าหากเพื่อนๆ ต้องการพูดกับคนท้องถิ่นเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ก็อาจจะใช้ท่าทางประกอบที่ค่อนข้างมีความสากล ใครๆ ก็เข้าใจได้ง่าย เช่น ถ้าหากเพื่อนๆ หิวข้าว ก็อาจจะทำท่าเหมือนคนกำลังทานข้าวอยู่ก็ได้ หรือถ้าหากยังไม่แน่ใจ ให้เพื่อนๆ หยิบสมุดจดกับปากกา เขียนคำที่ต้องการลงไป แล้ววาดรูปกำกับถึงสิ่งนั้น ก็จะยิ่งทำให้คนท้องถิ่นเข้าใจเพื่อนๆ ได้มากยิ่งขึ้น

แต่ถ้าหากสื่อสารกันยังไงก็ไม่รู้เรื่องจริงๆ ให้เพื่อนๆ เปิด application มือถือ สำหรับการแปลเอาไว้ด้วยเลย มีอะไรไม่เข้าใจก็พิมพ์แปลกันตรงนั้น แต่ขอให้ระวังไว้ด้วยว่า application เหล่านี้ ในบางครั้งก็อาจจะแปลได้ไม่แม่น 100% จึงทำให้เพื่อนๆ ยังจะต้องมีการตรวจสอบและเช็คว่า ที่แปลให้คนท้องถิ่นนั้นเข้าใจตรงกันจริงหรือไม่


การไปเที่ยวต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยาก และเพื่อนๆ สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนท้องถิ่นหรืออย่างน้อยแค่เข้าไปสอบถามทางต่างๆ ก็จะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้สื่อสารกับคนต่างวัฒนธรรม เป็นอะไรที่สนุกมากๆ เลยล่ะครับ และก่อนที่เพื่อนๆ จะออกผจญภัยไปยังโลกใหม่ ก็อย่าลืมทำประกันเที่ยวต่างประเทศติดตัวเอาไว้ด้วย ตกทุกข์ได้ยากที่ไหนรับรองว่าสบายใจหายห่วงแน่นอนครับ หากเพื่อนๆ อยากรู้ว่าประกันเดินทางช่วยชีวิตเราได้อย่างไรบ้าง ติดตามได้ที่เว็บไซต์โกแบร์เลยนะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.govivigo.com