13 แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในเกียวโต เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่เต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน เช่น วัดคินคาคุจิ วัดกินคาคุจิ วัดคิโยมิสึ วัดเรียวอันจิ และอาราชิยามะ

เกียวโต (Kyoto) เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ปีค.ศ. 794 ภายในเมืองเต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมอันน่าสนใจท่ามกลางบรรยากาศอาคารบ้านเรือนเก่าแก่
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนจากทั่วประเทศและทั่วโลกเดินทางมาเกียวโตคือ วัดและศาลเจ้ามากมายที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เช่น วัดโทจิ ที่มีเจดีย์ห้าชั้น, วัดทองคิงคาคุจิ, วัดเงินกิงคาคุจิ, วัดน้ำใสคิโยมิซุเดเระ, ศาลเจ้าคาโมะ, ศาลเจ้าชิโมะกาโมะ รวมถึงสวนญี่ปุ่นอันแสนงดงามที่วัดเรียวอันจิ และ วัดเท็นริวจิ
นอกจากนี้หากไปยังตลาดนิชิกิ ห้องครัวของเกียวโต เราจะได้เพลิดเพลินกับการเดินช้อปปิ้งและทานอาหารท้องถิ่นตามฤดูกาลของเกียวโตด้วย ระหว่างที่เดินเที่ยวไปตามเมืองไม่แน่เราอาจจะได้พบกับเหล่าไมโกะแสนงาม ที่ทำให้ต้องเหลียวหลังกลับไปมองกันเลยทีเดียว ไปชมสิ่งที่น่าสนใจในเมืองอันมีเสน่ห์แห่งนี้กันค่ะ
13 ที่เที่ยวแนะนำในเกียวโต

ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine) สร้างขึ้นในปี 1895
1. วัดทองคิงคาคุจิ (Kinkaku-ji Temple)

Kinkaku-ji (วัดคินคาคุจิ) มีชื่อทางการว่า โรคุองจิ ตั้งอยู่ในคินุกาสะ เขตคิตะ สร้างขึ้นในปี 1397 เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศของอาชิคางะ โยชิมิตสึ โชกุนรุ่นที่ 3 หอสามชั้นซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมีการปิดแผ่นทองคำเปลวทั้งภายในและนอก ความงดงามของสีทองระยิบระยับที่สะท้อนลงผิวน้ำดึงดูดผู้คนให้มาเที่ยวกันมากมาย
2. วัดเงินกิงคาคุจิ (Ginkaku-ji Temple)

วัดเงินกิงคาคุจิ (Ginkaku-ji Temple) มีชื่อเรียกทางการว่า จิโชจิ เดิมสร้างขึ้นเป็นบ้านพักตามชายเขาของโชกุนอาชิคางะ โยชิมาสะ ตัวสถาปัตยกรรมแสดงเนื้อแท้ของวัสดุอย่างเรียบง่ายตามสไตล์วัฒนธรรมของฮิกาชิยามะ ตรงข้ามกับความหรูหราของวัดทองคิงคาคุจิ
3. วัดน้ำใสคิโยมิซุ (Kiyomizudera Temple)
ชมวิวเมืองเกียวโตจากบนจุดชมวิว

วัดน้ำใส หรือวัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปีค.ศ. 778 สร้างขึ้นด้วยวิธีจิโกกุโดเมะ ไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว มีบุไต ลานแสดงด้านหน้าอุโบสถหลักที่สามารถชมวิวเมืองเกียวโตได้ทั้งเมือง ภายในวัดเป็นมีน้ำตกโอโตวะโนะทาคิ ไหลแยกเป็น 3 สาย โดยเชื่อว่าสายน้ำแต่ละสายจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในด้านการเรียน ความรัก และอายุยืนยาว
* ปัจจุบันฮนโด (อุโบสถหลัก) รวมถึงบริเวณบุไต (จุดชมวิวด้านหน้า) อยู่ในระหว่างการบูรณะ สามารถเข้าชมได้ตามปกติ แต่จะมีผ้าคลุมปิดด้านนอก การบูรณะมีกำหนดเสร็จสิ้นในปี 2021
4. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha)
ไหว้เจ้าขอพรให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง และเสาโทริอิสีแดงชาด 1 พันต้น

จาก ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ โทริอิพันต้นนั้น ต้องเป็นประตูสู่อีกโลกแน่ๆ
ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าอินาริกว่า 30,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น สักการะบูชาโออินาริซัง เทพเจ้าแห่งพืชผลและการค้ามาตั้งแต่ปีค.ศ. 711
โดยเฉพาะเสาประตูโทริอิ 1 พันต้น นับเป็นไฮไลท์สำคัญที่ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาท่องเที่ยวที่นี่
5. เขาอาราชิยามะ (Arashiyama)
แหล่งท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพอันแสนงดงามและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของชาติ

เขาอาราชิยามะ (Arashiyama) เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเกียวโตที่เต็มไปด้วยไฮไลท์มากมาย โดยเฉพาะซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีอันแสนงดงาม บริเวณโดยรอบสะพานโทเก็ตสึเคียวนั้นเป็นที่ตั้งของ วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji), ศาลเจ้าโนโนมิยะ (Nonomiya Shrine) โด่งดังเรื่องการผูกสัมพันธ์, วัดเซเรียวจิ (Seiryo-ji), ศาลเจ้ามัตสึโอะไทชะ (Matsuo-taisha) และ วัดโฮรินจิ (Horin-ji) ป่าไผ่ก็มีบรรยากาศดีและอลังการมาก
6. วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple) สวนหินเซ็น

วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple) มีสวนหินชื่อดัง คาเรซันซุย สวนหินแห่งนี้ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง หินเล็ก-ใหญ่ภายในสวนกว่า 15 ก้อนตั้งเอาไว้ในตำแหน่งที่ไม่ว่าชมจากมุมไหนก็สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด โดยแฝงปริศนาธรรมตามแบบเซ็น แค่ได้มานั่งดูก็รู้สึกจิตใจสงบขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ นอกจากสวนหินแล้วก็ยังมีบ่อน้ำเคียวโยจิ ให้ชมทัศนียภาพอันงดงามของดอกไม้ได้ทั้ง 4 ฤดูกาล
7. ศาลเจ้าคิตาโนะเท็มมังกู (Kitano Tenmangu)
สักการะเทพเจ้าแห่งการศึกษา

ศาลเจ้าคิตาโนะเท็มมังกู (Kitano Tenmangu) เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าเท็มมังกูกว่า 12,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น สักการะซุกาวาระโนะมิจิซาเนะ เทพเจ้าแห่งการศึกษา สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 947 ตั้งอยู่ในเขตคามิเกียว เมืองเกียวโต จึงมีนักเรียน-นักศึกษาแวะเวียนมาสักการะเพื่อให้สมหวังเรื่องการเรียนและการสอบกันเป็นจำนวนมาก
ที่นี่โด่งดังเรื่องสวนต้นบ๊วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเปิดให้เข้าชมพร้อมบริการชาด้วย ภายในวัดจะมีรูปปั้นวัวซึ่งเกี่ยวข้องกับมิจิซาเนะโคตั้งเอาไว้ตามจุดต่างๆ ผู้คนเชื่อกันว่าถ้าลูบจะทำให้มีโชคลาภ มีการจัดงานวัดขึ้นในวันที่ 25 ของทุกเดือน
8. วัดโทจิ (To-ji Temple) และเจดีย์ห้าชั้น

วัดโทจิ (To-ji Temple) มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า เคียวโอโกโคคุจิ สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 796 หลังจากนั้นจักรพรรดิซากะได้มอบให้กับพระโคโบไดชิ (คูไค) เพื่อใช้เป็นวัดสำหรับเผยแผ่พุทธศาสนานิกายชิงกง หอประชุมเป็นที่ประดิษฐานของประติมากรรมมันดาลาพระไวโรจนพุทธะที่สวยงามและอลังการมาก
9. วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple)
สวนญี่ปุ่นสุดสวยและภาพมังกรทรงพลัง

วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple) ในอาราชิยามะเป็นวัดเซ็นนิกายรินไซที่สร้างขึ้นโดย อาชิคากะ ทาคาอุจิ ในปี 1339 สวนโซเก็นจิ ที่สร้างขึ้นโดยพระเซ็น มุโซ โซเซกิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์แห่งแรกของญี่ปุ่นและแหล่งชมทัศนียภาพอันงดงามอีกด้วย ภาพมังกรที่วาดบนเพดานหอประชุมของวัดนั้นไม่ว่าจะดูจากทางไหนก็ดูเหมือนกำลังโดนจ้องมองอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว บอกเลยว่าดูทรงพลังมาก
10. วัดโคริวจิ (Koryu-ji Temple) พระศรีอริยเมตไตรยในท่าทางทรงเสน่ห์

วัดโคริวจิ (Koryu-ji Temple) เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต สร้างขึ้นในปีค.ศ. 603 มีพระประธานเป็นเจ้าชายโชโตกุ และพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตรยปางนั่งแกะสลักจากไม้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติชิ้นแรก ท่านั่งคล้ายไขว่ห้างและพระโอษฐ์อมยิ้มเล็กน้อย ดูอ่อนช้อยและสวยงามมาก
ใกล้ๆ กันมี Toei Kyoto Studio Park ธีมพาร์คที่เต็มไปด้วยอาคารแบบโบราณสำหรับถ่ายหนังย้อนยุค ยังไงก็อย่าลืมแวะไปชมกันให้ได้นะคะ
11. ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ที่มีความเกี่ยวข้องต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง

ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) เป็นปราสาทบนที่ราบที่สร้างขึ้นในปี 1603 เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่าง ไทเซโฮคัง (การประกาศคืนอำนาจจากโชกุนสู่พระจักรพรรดิ) คูรอบนอกปราสาทภายในเมืองเป็นอะไรที่โดดเด่นสะดุดตาอย่างมาก เราสามารถสัมผัสประสบการณ์อันล้ำค่าในการเดินเที่ยวปราสาทญี่ปุ่นได้จริงๆ เลยล่ะค่ะ
12. วัดเอคันโด (Eikando Temple)
พระประธานสุดแปลกและใบไม้เปลี่ยนแสนงดงาม

Picture courtesy of Eikando
วัดเอคันโด (Eikando Temple) มีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดเซ็นรินจิ ตั้งอยู่ในเอคันโดโจ เขตซาเคียว สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 863 มีประวัติความเป็นมายาวนานถึงขนาดปรากฏอยู่ใน โคคินวากะชู (หนังสือรวมบทกลอนญี่ปุ่นที่ถูกรวบรวมขึ้นราวปีค.ศ. 900) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงนั้นมีความงดงามมาก แถมในตอนกลางคืนก็ยังมีการไลท์อัพด้วย พระประธานคือพระอมิตาภพุทธะปางยืน ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างแปลกคือยืนหันหน้ามาทางผู้ที่มากราบไหว้สักการะเหมือนต้องการพูดคุยด้วย
13. วัดโทฟุกุจิ (Tofuku-ji Temple)
แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีแสนงดงาม

Picture courtesy of Tofuku-ji
วัดโทฟุกุจิ (Tofuku-ji Temple) วัดงามที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนงดงาม เหล่ากะรัน (อาคารต่างๆ ภายในพื้นที่วัด) ที่ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 19 ปีจนเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 1255 กลายเป็นกะรันที่ใหญ่ที่สุดในเกียวโต ภาพความงามของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่สามารถชมได้จากบนสะพานทางเดินซือเท็นบาชินั้นงดงามจนเกินบรรยายจริงๆ เราสามารถนั่งแท็กซี่มาจากสถานีเกียวโตได้โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที