ซากุระ มนเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่ชาวต่างชาติต่างก็หลงใหล ในแถบคันไซก็มีจุดชมซากุระมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดที่สามารถชมซากุระพร้อมกับปราสาทชื่อดังหรือจุดที่สามารถชมซากุระได้กว่า 3 หมื่นต้น ครั้งนี้ DiGJAPAN! ได้คัดสรรสถานที่ชมซากุระในแถบคันไซ (โอซาก้า เฮียวโกะ เกียวโต ชิกะ)ไว้อย่างพิถีพิถัน โดยเริ่มจากการแนะนำจุดชมซากุระชื่อดังที่ห้ามพลาด จุดชมซากุระที่เหมาะกับการนั่งชมสบายๆ จุดชมต้นซากุระต้นเดี่ยวแบบระย้าที่แสนสง่างามและจุดที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก จะมีที่ไหนบ้างไปเช็คกันเลย!
1. ภูเขาโยชิโนะยามะ (นารา)
ที่หุบเขานี้ปกคลุมไปด้วยต้นซากุระพันธุ์ชิโระยามะซากุระซึ่งเป็นซากุระภูเขาที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนของญี่ปุ่น โดยต้นซากุระทั้ง 3 หมื่นต้นของที่นี่แบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกันคือส่วนล่าง ส่วนกลาง ส่วนบน และส่วนในของภูเขา ต้นซากุระบานสะพรั่งปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขาจนมีคำกล่าวว่าเพียงแค่พริบตาเดียวก็เห็นซากุระที่สวยงามตระการตาได้ถึงพันต้น หรือที่เรียกว่า”หนึ่งพริบตาหนึ่งพันต้น” จุดที่อยากแนะนำเป็นพิเศษเลยคือวิวจากศาลเจ้าโยชิมิสุซึ่งมองเห็นซากุระบริเวณตอนกลางและตอนบนของหุบเขา ได้ทอดสายตาชมวิวซากุระและชมไฟประดับตอนกลางคินยิ่งเป็นจุดที่พลาดไม่ได้เลยละ

ที่อยู่: Yoshinoyama, Yoshino-cho, Yoshino-gun, Nara(MAP)
พยากรณ์ซากุระ: ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่เสีย
การเดินทาง: จากสถานี Yoshino สาย Kintetsu Yoshino ให้นั่งรถบัสพิเศษ Nara Kotsu ประมาณ 20 นาที ลงที่ป้าย Nakasenbon Koen
2.แนวต้นซากุระ บริเวณโรงกษาปณ์ (โอซาก้า)
ในแต่ละปีแนวต้นซากุระนี้จะบานสะพรั่งเป็นระยะเวลา 1 อาทิตย์เท่านั้น สองข้างฝั่งของถนนที่เปิดให้เดินทางเดียวตั้งแต่ประตูใต้ของโรงกษาปณ์ถึงประตูเหนือ รวมระยะทางกว่า 560 เมตรนี้มีต้นซากุระกว่า 130 ชนิด รวมๆแล้วก็กว่า 350 ต้น ไฮไลท์ของที่นี่คือสามารถชมดอกซากุระพันธุ์ที่หายากได้ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยซากุระพันธุ์ยาเอะซากุระซึ่งแตกต่างกับพันธุ์โซเมอิโยชิโนะที่พบเห็นได้ทั่วไป

ที่อยู่: 1-1-79,Temma, Kita-ku, Osaka-shi, Osaka(MAP)
พยากรณ์ซากุระ: กลางเดือนเมษายน (รายละเอียดเพิ่มเติมตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
ค่าเข้า: ไม่เสีย
การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากรถไฟใต้ดินหรือรถไฟ Keihan สถานี Temmabashi
3. สวนปราสาทโอซาก้า (โอซาก้า)
ภายในสวนปราสาทโอซาก้าได้ปลูกต้นซากุระกว่า 3,000 ต้น จุดที่พลาดไม่ได้คือสวนนิชิโนะมารุเทเอ็นซึ่งเป็นสถานที่ชมซากุระชื่อดัง ที่จุดนี้สามารถชมความงามของดอกซากุระที่กำลังบานเต็มที่และวิวปราสาทโอซาก้าไปพร้อมกัน และในทุกปีจะมีการจัดแสดงไฟในตอนกลางคืนที่สวนนิชิโนะมารุเทเอ็น (24 มีนาคม – 15 เมษายน 2018) สวยงามราวกับอยู่ในฝันเลยละ
รายละเอียด
Osaka Castle Park
ที่อยู่: Osaka Castle, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka(MAP)
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่เสีย (ค่าเข้าชมสวนนิชิโนะมารุเทเอ็น 200 เยน, จัดแสดงไฟซากุระตอนกลางคืน 350 เยน)
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานี Tanimachi Yonchome
4. สวนสาธารณะอนุสรณ์บัมบาคุ (โอซาก้า)

สวนสาธารณะอนุสรณ์บัมบาคุได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 สุดยอดสถานที่ชมซากุระของญี่ปุ่น จุดที่เป็นไฮไลท์คือการชมแนวต้นซากุระสีชมพูบริเวณโดยรอบหอคอยพระอาทิตย์ในสวนธรรมชาติและวัฒนธรรม (Natural and Cultural Gardens) ที่ออกแบบโดยศิลปินชื่อดังอย่างคุณทาโร่ โอกาโมโตะ ในช่วงเทศกาลซากุระ (28 มีนาคม ถึง 15 เมษายน 2018 ) สวนจะขยายเวลาเปิดถึงเวลา 21.00 น. (เข้าสวนได้ถึง 20.30 น.) ซึ่งช่วงเทศกาลซากุระนี้จะมีการจัดแสดงไฟตอนกลางคืนและหอคอยพระอาทิตย์ก็เปิดให้ชมด้านใน (จำเป็นต้องจองบนหน้าเว็บไซต์ก่อน) แม้การจองในช่วงซากุระบานจะเต็มเร็วเสียหน่อย แต่ถ้าได้มีโอกาสมาชมด้านในหอคอยก็ถือเป็นโอกาสที่คุ้มค่าจริงๆ ใครวางแผนจะมาเที่ยวโอซาก้าละ ลิสต์ที่นี่ไว้ในแผนเที่ยวก็ดีไม่น้อยเชียวละ
รายละเอียด
Expo’70 Commemorative Park
ที่อยู่: Senribampaku Kinen Koen, Suita-shi, Osaka(MAP)
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 250 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 70 เยน
การเดินทาง: เดิน 5 นาที จากรถไฟโมโนเรล สถานี Bampaku-Kinen-Koen
5. ปราสาทฮิเมจิ (เฮียวโกะ)

ภายในมรดกโลกอย่างปราสาทฮิเมจิ มีต้นซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะและพันธุ์ชิดาเระซากุระกว่า 1,000 ต้น ตัวปราสาทและกำแพงสีขาวตัดกับสีของดอกไม้ช่างทำให้บรรยากาศสดชื่นเสียจริงๆ ที่สวนญี่ปุ่นนิฮงเทเอ็น โคโคะเอ็นเป็นจุดที่สามารถชมเงาสะท้อนของซากุระบนผิวน้ำ และที่ต้องขอแนะนำเลยคือการนั่งเรือไม้แบบญี่ปุ่นค่อยๆซึมซับบรรยากาศที่คูน้ำรอบปราสาท พลาดไม่ได้จริงๆ
รายละเอียด
Himeji Castle
ที่อยู่: 68 Honmachi, Himeji, Hyogo(MAP)
พยากรณ์ซากุระ: ต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: เดิน 20 นาทีจากรถไฟ JR สถานี Himeji หรือรถไฟ Sanyo Dentetsu สถานี Himeji
6.แม่น้ำชูคุกาวะ (เฮียวโกะ)

แนวซากุระทอดยาวตลอดสองฝั่งของแม่น้ำชูคุกาวะตลอดระยะทางกว่า 2.8 กิโลเมตร เป็นจุดที่สามารถมานั่งปิกนิกค่อยๆชมความงามของซากุระได้อย่างสบายใจ ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสุดยอดจุดชมซากุระโดยที่แม่น้ำแห่งนี้มีดอกซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะมากถึง 1,660 ต้น ถือเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัดเฮียวโกะเลยทีเดียว
รายละเอียด
Shukugawa Riverside Park
ที่อยู่: Oidemachi hoka, Nishinomiya, Hyogo(MAP)
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: ติดกับทางออกสถานี Shukugawa สาย Hankyu Kobe หรือสถานี Kurakuenguchi สาย Hankyu Koyo หากเดินทางด้วย JR ติดกับสถานี Sakura Shukugawa หรือ สถานี Kouroen สาย Hanshin honsen
7. สวนกวางนารา (นารา)

สวนกวางนารานอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องกวางแล้ว ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องซากุระเช่นกัน โดยที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,700 ต้น เป็นที่รู้กันว่าที่นี่มีดอกซากุระหลากหลายชนิดและมีช่วงซากุระบานนาน จุดที่พลาดไม่ได้คือบริเวณรอบๆสระน้ำอุคิมิโดะ ซึ่งสามารถชมกวางท่ามกลางกลีบซากุระที่ร่วงลงมาบนพื้นจนเหมือนพรมที่ปูด้วยกลีบซากุระ นอกจากนี้ยังมีบริเวณรอบวัดโทไดจิและวัดโคฟุคุจิที่พลาดไม่ได้เช่นกัน
รายละเอียด
Nara Park
ที่อยู่: Kasugano-cho ittai, Noborioji-cho, Zoshi-cho, Takahata-cho, Nara-shi, Nara(MAP)
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี Nara รถไฟ JR หรือ รถไฟ Kintetsu ลงที่ป้าย Todaijidaibutsuden Katsugataisha แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
8. ปราสาทฮิโคะเนะ (ชิกะ)

ปราสาทฮิโคะเนะมีประวัติอันยาวนานและถูกยกให้เป็นสมบัติแห่งชาติ จุดนี้เป็นจุดชมซากุระอันขึ้นชื่อของจังหวัดชิกะ ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,200 ต้นและตอนกลางคืนยังมีการประดับไฟอีกด้วย ยิ่งได้ชมเงาสะท้อนบนผิวน้ำของกำแพงหินและซากุระที่บานสะพรั่งจากเรือญี่ปุ่นที่ลอยรอบคูน้ำโดยรอบปราสาทยิ่งเป็นความสวยงามตระการตาจนแทบหยุดหายใจเลยละ
รายละเอียด
Hikone Castle
ที่อยู่: 1-1 Konki-cho, Hikone, Shiga (MAP)
พยากรณ์ซากุระ: 1 เมษายน ถึง 20 เมษายน
เวลาเปิด: 8.30-17.00 น. (เวลาเข้าชมปราสาทฮิโคะเนะ)
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 800 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 200 เยน (รวมค่าเข้าชมปราสาทฮิโคะเนะ)
การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากสถานี Hikone สาย JR Biwako
ขออนุญาตนำเสนอข้อมูลเพื่อเป็นแหล่งความรู้
ขอบคุณ digjapan.travel